วัดหงษ์รัตนาราม
นับว่าเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี
มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมาอาบก่อนออกรบ มีหลวงพ่อพระแสน
เป็นพระพุทธรูปที่พระราชครูโพนสะเม็กสร้างไว้ก็ประดิษฐานอยู่ที่นี่
มีศาลพระเจ้าตากสินที่ศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานให้ผู้ผ่านไปมาได้สักการะ
ในอดีตวัดหงษ์รัตนารามแห่งนี้เป็นที่รวบรวมตำราสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั้ง
ตำราการทำพระกรรมฐานแบบมัฌชิมา
อันเป็นแบบอย่างเดียวกันกับวัดพลับ(วัดราชสิทธาราม) มีตำราเกี่ยวกับพุทธาคม
คือ พระยันต์ พระคาถาต่างๆที่ไว้ใช้ในการออกศึก ใช้ในการค้าขาย
ใช้ในทางกันผีกันคุณไสย
ในช่วง 40 ปีที่แล้ววัดหงษ์มีพระอาจารย์กล้าย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูงส่งเป็นที่นับถือกันโดยทั่วไป
และในปัจจุบันนี้ที่วัดหงษ์ก็มีพระเถระสำคัญที่สืบทอดวิทยาคมคือ พระอาจารย์ไพบูลย์ รัตนญาโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงษ์รัตนาราม
พระอาจารย์ไพบูลย์ เป็นผู้ศึกษาเวทย์วิทยาคมมาแต่เล็ก
ตัวท่านเป็นคนพื้นเพจังหวัดศรีษะเกษ
ท่านมีความสามารถรู้อักขระและภาษาทั้งส่วย ทั้งเขมร
ทั้งภาษาพื้นเมืองศรีษะเกษ และยังสามารถในทางตัวธรรมอีสาน
และตัวขอมแบบภาคกลางด้วย
วัยเด็กท่านผ่านการร่ำเรียนในทางเป่าฝี
ใครเป็นฝีที่ไหนถ้าเด็กชายไพบูลย์เป่าให้เป็นอันหายโดยไม่ต้องใช้ยาฝรั่ง
การเป่าฝีนั้นท่านว่าผู้ป่วยทำขันธ์ ๕ มาให้ มีค่าครูเพียง ๖ บาท
ส่วนตัวท่านจะกินหมาก ๕ คำ เสกหมากไปด้วยแล้วเป่าไปยังหัวฝี เพียงไม่นานฝีจะยุบตัวลงไปอย่างน่าอัศจรรย์
นอกจากสมัยเด็กเป็นหมอเป่าฝีแล้ว ท่านยังเก่งเรื่องปราบผีปอปอีกด้วย
การปราบผีปอปนั้นท่านร่ำเรียนคาถาปราบผี
ซึ่งท่านเปิดเผยว่าเป็นคาถาง่ายๆท่องแค่ ทุ สะ นะโส นะโมพุทธายะ
เมื่อรู้คาถาท่านก็ท่องจนขึ้นใจ
พอรู้ว่าบ้านไหนมีปอปอาละวาดทำคนให้เจ็บให้ป่วยท่านก็ไปบ้านนั้น
ท่านเล่าวว่าท่านท่องคาถาตั้งแต่เดินลงจากบันไดบ้านพอไปถึงบ้านคนโดนปอปเข้า
เพียงแค่มันเห็นหน้ามันก็ร้องกลัวทันทียอมออกไปง่ายๆ
ด้วยความสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กทำให้ท่านเป็นนักท่องคาถา
ด้วยความที่ท่องคาถาอยู่เสมอจึงเป็นการได้ตัวภาวนาไปในตัวโดยอัตโนมัติ
เพราะจิตใจมีคำภาวนาอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่เสมอ วิตก
วิจารณ์ในคำภาวนาจึงมีอยู่โดยธรรมชาติ
เท่ากับเป็นพื้นฐานในการทำสมาธิชั้นสูงต่อไป
ต่อมาเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ
มีหลวงพ่อเครื่อง วัดสระกำแพงเป็นพระอุปัฌชาย์
ท่านได้ร่ำเรียนคาถาแม่น้ำทั้ง ๕ จากหลวงปู่เครื่อง
คาถานี้เป็นคาถาที่มีพลังเย็นใช้ล้างอาถรรพณ์ถอดถอนคุณไสยและบันดาลความเป็น
สิริมงคลแก่ผู้มารดน้ำมนต์ได้
จากนั้นท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ใหญ่ลา ซึ่งหลวงปู่ท่านนี้มีวิชา
"ฝนแสนห่า" เป็นที่เลื่องลือ ท่านทำตะกรุดฝนแสนห่า
มีพระพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ พระพุทธคุณของยันต์ฝนแสนห่านั้นท่านกล่าวว่า
"อย่าว่าแต่ศึกคนเลยแม่ศึกเทวดาก็ไม่มีแพ้"
อำนาจจากยันต์ฝนแสนห่าเป็นทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด
นำชัยชนะมาสู่ผู้บูชาเป็นเมตตาใหญ่ในตัวไปไหนมาไหนมีโชคลาภมาบังเกิดเสมอมิ
ขาดเลย
ในปี ๒๕๒๖ ท่านได้เข้ามาพำนักที่วัดหงษ์รัตนารามเรื่อยมา
ในช่วงที่ท่านมานั้นตำราเก่าแก่ของวัดหงษ์ขาดผู้ดูแลสืบทอดเพราะขาดผู้มี
ความรู้ทางอักขระขอม ตัวท่านได้ศึกษาทางนี้มาเป็นอย่างดีจึงนำตำรามาคัดลอก
ดำเนินงานอนุรักษ์ความรู้เก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ไม่ให้สูญ
หาย
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าอันตำราเก่าแก่ของวัดหงษ์นั้นเป็นความรู้ที่สืบ
มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ในยุคนั้นมีวัดประดู่ในทรงธรรมเป็นศูนย์การเรียนรู้การศึกษา
ตำราหลายเล่มที่ตกทอดมาถึงวัดหงษ์ก็เป็นตำราจากอยุธยาตอนปลายมีอายุนับร้อย
ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น